(รีวิวเกมมือถือน่าเล่น) Iron Blade : ศึกอัศวินยุคกลาง กับเกมแอ็คชั่นลูกเล่นใหม่จาก Gameloft

Gameloft เป็นค่ายผู้พัฒนาเกมอีกค่ายหนึ่งที่จะมีเกมทำออกมาหลากหลาย แต่ว่าหลังๆ ทาง Gameloft ทำเกมแนวฮาร์คคอร์ออกมามากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอบโจทย์เกมเมอร์ชาวฮาร์คคอร์ที่ต้องการมองหาเกมที่แปลกใหม่มากขึ้น และเกมล่าสุดของพวกเขาเองก็เป็นเกมแนวฮาร์คคอร์ที่มีลูกเล่นแตกต่างจากเกมอื่นครับ นั่นก็คือ “Iron Blade – Medieval Legends” นั่นเอง

Iron Blade – Medieval Legends นั้นเป็นเกมในช่วงเวลาของยุโรปยุคกลาง หลังจากช่วงสงครามครูเสด (สงครามครูเสดมีทั้งหมด 3 ครั้ง ในเกมไม่ได้ระบุชัดว่าเกิดขึ้นครั้งไหน) มีขุนนางที่ฝักใฝ่อำนาจ เป่าหูพระราชาให้กำจัดเหล่าอัศวินเทมพลาร์ (เป็นนักรบที่ทรงอำนาจที่สุดของ คริสตจักรโรมันคาทอลิก ในสงครามครูเสด) และวางแผนจะทำอะไรบางอย่าง ตัวเราในฐานะหนึ่งในศิษย์ของเทมพลาร์ จึงได้ออกตามสืบเรื่องราวนี้

เอาจริงแล้ว ตัวเกมนั้นมีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ และมีฉากคัทซีนที่ทำออกมาดี แถมมีเสียงพากย์ตัวเกมได้ดีอีกด้วย (คืออาจจะไม่ได้นักพากย์ชื่อดังอะไรมาก แต่นักพากย์ก็พากย์เสียงได้ดีครับ) เพียงแต่ว่าตอนเริ่มเกมนั้น ตัวเกมรีบไปหน่อย ยังไม่ทันที่คนเล่นจะได้ซึมซับกับบรรยากาศเนื้อเรื่อง หรือความเป็นไปเป็นมาของเกมเลย จู่ๆ ก็โยนเราเข้าไปในการต่อสู้แล้ว

ระบบการต่อสู้ของเกมนี้ที่แตกต่างจากเกมอื่นและคนเขียนเองยังไม่เคยเห็นเกมแนวนี้มาก่อนในเกมมือถือเลยครับ กล่าวคือ ตัวละครคนเล่นนั้นจะยืนเฉยๆ คนเล่นจะไม่สามารถกดให้ตัวละครเดินได้ แต่ตัวละครจะอาศัยจังหวะที่ศัตรูจะบุกโจมตีเข้ามา ตัวละครจะโจมตีอีกฝ่ายที่ใกล้ที่สุด และหากมีศัตรูใกล้ๆ กำลังจะโจมตีเรา คนเล่นจะต้องกด บล็อก การโจมตีให้ทัน ซึ่งตัวละครจะสวนกลับไปให้อีกฝ่ายชะงักครับ

ถ้าพูดแบบนี้น่าจะเข้าใจง่ายกว่า ระบบจะคล้ายคลึงกับเกม Batman ซีรี่ย์ Arkham หรือ Middle-earth: Shadow of Mordor เลยครับ นั่นก็คือคนเล่นจะต้องเผชิญกับศัตรูจำนวนมาก แต่คนเล่นจะสามารถอัดโจมตีอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว และสามารถบล็อกการโจมตีอีกฝ่ายได้หากกดได้ทันอีกด้วย เป็นเกมสไตล์ว่า ต่อให้คนเล่นถูกรุมก็ไม่หวั่น เพราะสามารถอาศัยจังหวะโจมตี และบล็อกได้เรื่อยๆ ครับ


แต่ทีนี้ ถ้าตัวละครเดินไม่ได้ เกมจะให้เรารับมือยังไง ? คำตอบก็คิอ นอกจากการโจมตีและป้องกันแล้ว ในเกมยังมีท่าโจมตีอื่นอีก เช่น การยิงธนู ซึ่งเป็นการยิงไปแล้วก็วิ่งเข้าไปหา (ทำได้โดยการปัดหน้าจอ) และรวบรวมเกจสกิล แล้วก็กดสกิลโจมตีใส่อีกฝ่าย ซึ่งมีท่าโจมตีตั้งแต่โจมตีหนักหน่วง หรือทำให้อีกฝ่ายกระเด็นเป็นหมู่คณะ ตัวเกมนั้นอ่จจะมีศัตรูไม่ได้เยอะเมื่อเทียบกับ Batman หรือ มอร์ดอร์ แต่ก็เรียกว่าให้อารมณ์คล้ายคลึงกันเลยหละครับ

พอมันเป็นระบบเกมแบบนี้ แปลว่าคนเล่นจะมีเวลาในการจัดการอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็วและเกมจะกินเวลาในการเล่นไม่นาน แต่ทีเด็ดของเกมที่ทำให้คนเล่นเบื่อได้ยากก็คือ ฉากในเกม แม้ว่าในด่านนั้นๆ จะมีการใช้แผนที่เดียวกัน แต่ด่านย่อยแต่ละด่านจะมีการนำเสนอมุมมองของแผนที่ต่างกันและไม่ซํ้ากันซักจุด เลยทำให้เป็นเกมที่มีรายละเอียดของแผนที่เยอะมากเกมหนึ่งเลยทีเดียว

ทว่า ถึงเกมจะมีระบบการต่อสู้ที่ดีแค่ไหน ตัวเกมนั้นกลับมีท่าสกิลที่ให้ใช้จำกัดและคนเล่นจะไม่สามารถเลือกอัพเกรดสกิลได้เลย ตรงกันข้าม เกมมาสไตล์เกมฟรีเด๊ะ นั่นก็คือ การเน้น “ค่าพลัง” ในการเล่น ซึ่งค่าพลังจะได้จากเลเวลตัวละคร และชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้า ซึ่งหน้าที่ของคนเล่นก็คือ หาอุปกรณ์และอาวุธสวมใส่ให้ได้ค่าพลังมากที่สุด และเอาของที่เก็บรวบรวมเอามาเป็นวัตถุดิบในการอัพเกรดครับ

นอกจากตัวเนื้อเรื่องเกมหลักแล้ว เกมยังมีโหวดอีเวนท์ ซึ่งเป็นการเข้าไปเล่นเพื่อที่จะเก็บสะสมวัตถุดิบในการพัฒนาอุปกรณ์และอาวุธอย่างเดียว (ไม่มีการอัพเดตสเตตัสตัวละครและสกิลใดๆ ทั้งสิ้น) ส่วนโหมด PVP นั้นจะเป็นการโจมตีและป้องกันปราสาท (แต่คนเขียนขอเรียกว่า ลานประลอง ดีกว่า) ที่คนเล่นจะต้องเอาตัวละครที่ได้จากการเล่นโหมดเนื้อเรื่อง เอามาเป็นทหารเฝ้าปราสาทของเรา และเราก็ไปบุกปราสาทคนเล่นคนอื่นเพื่อแย่งชิงวัตถุดิบเอามาพัฒนาอาวุธและอุปกรณ์ แต่ไม่ใช่การต่อสู้กับคนเล่นจริงๆ นั่นแปลว่า PVP แบบไม่ Real time

โดยรวมแล้ว ถึงแม้ว่าตัวเกมจะมีการนำเสนอรูปแบบเกมเพลย์ที่น่าสนใจ และเน้นการเล่าเนื้อเรื่องที่ดี แต่ตัวเกมนั้นกลับถูกลดเกรดลง จากการที่มันเป็นเกมฟรีเน้นเติมเงิน ดังนั้นใครเทพทรูก็สามารถเล่นเกมนี้ได้สบาย (ที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่าคือ ค่าพลังงานมีให้น้อยเกิ๊น จะให้เติมอย่างเดียว) ทำให้เกมนี้ไม่ได้เป็นเกมแนวฟอร์มยักษ์แบบที่มันควรจะเป็น แต่ก็ถือว่าเป็นกมแนวแอ็คชั่นที่เล่นได้ ง่าย มากๆ และเหมาะกับมือถือ เหมาะกับคนเล่นที่ไม่ชอบสุงสิงกับใครด้วยเพราะเป็นการเล่นคนเดียวครับ

จุดเด่น
– นำเสนอรูปแบบเกมเพลย์ที่สดใหม่ แตกต่างจากเกมอื่น
– เป็นเกมที่มีฉากพื้นหลังในบรรยากาศที่หลากหลายมาก
– การเล่าเรื่องแต่ละฉากทำออกมาได้ดี
– ถ้าไม่คิดอะไร เป็นเกมที่ออกแบบเพลย์ได้ง่ายที่สุดและให้คนเล่นเข้าถึงระบบแอ็คชั่นมากที่สุดเช่นกัน
– เหมาะที่จะเป็นเกมที่เล่นคนเดียว และไม่ต้องสุงสิง ไม่ต้องหากิลด์หาแคลนอะไรกับใคร
– ภาษาไทยเต็มรูปแบบ โดยทีมงาน Gameloft Thailand

ข้อเสีย
– เกมถูกลดเกรดเพราะเป็นเกมฟรีเติมเงิน ใครเทพทรูก็สบายไป
– ค่าพลังงานให้มาน้อยเกิ๊น ซึ่งสวนทางกับการที่เกมเน้นให้อัพเกรดอุปกรณ์และอาวุธ
– การควบคุมทั้งการโจมตีและบล็อกศัตรูมาแบบตายตัวเกินไป ไม่ได้หลากหลายนัก
– เนื้อเรื่องดี แต่ปูทางเริ่มเกมไม่ดี ทำให้คนเล่นอินยากถ้าไม่ใช่คนที่ชื่นชอบอัศวินยุคกลางจริง
– เกมเพลย์นำเสนอรูปแบบเดียว แม้จะสนุก แต่ไร้ความหลากหลาย

คนไหนที่สนใจตัวเกม Iron Blade – Medieval Legends ละก็ ตัวเกมมีให้ดาวโหลดเล่นกันได้แล้ว สามารถดาวโหลดเล่นได้ตามลิ้งข้างล่างนี้ และติดตามข่าวสารของเกมเครือ Gameloft ประเทศไทยได้จาก แฟนเพจหลัก ได้เลยนะครับ

Comment