HyperX Cloud III ตัวเดียวใช้ได้ทุกเครื่องทุกระบบ
จากการเปิดตัวของ Cloud ll ปี 2015 ได้รับคำชื่นชมจากสื่อทั้งสาย Tech – Gaming มากมายและเหล่า influencers มากมายว่าเป็นหูฟังที่คุ้มราคาที่สุด รวมไปถึงสายดนตรีเพียวๆอย่าง Rolling Stone อีกด้วยซึ่งวันนี้ รุ่นล่าสุด Cloud lll ก็ได้มาถึงมือทีมงาน Game DED ได้สัมผัสของจริงเรามาแกะกล่องดูกันดีกว่าครับ
โดยหูฟังตัวนี้ระบุว่าสามารถใช้งานได้กับทุกเครื่องไม่ว่าจะเป็น PC และ Console ทุกรุ่นไม่ว่าจะเป็น PS4-5, XBox, Nintendo switch และมือถือ บนด้านหน้ากล่องและใช้ระบบเสียง DTS V.2.0
กล่องตัวนี้จะเปิดจากด้านล่างทำให้เปิดไม่ยุ่งยากเหมือนรุ่นอื่นๆ ที่จะต้องเปิดด้านบนละมีฝาพับและต้องเก็บหูหิ้วเข้าที่ทุกครั้งที่เปิดหรือปิดกล่อง เมื่อเปิดออกมาหูฟังจะถูกวางอยู่ในที่วางดำด้านดุดันตามสไตร์ของ HyperX โดยด้านในจะมีกล่อง ของสายอะแดปเตอร์และตัวไมค์ต่อรวมอยู่ด้านใน
ตัวหูฟังเป็นโครงเหล็กด้านในหุ้มด้วย Memory foam Signature HyperX Comfort ที่ใครเคยใช้หรือเคยลองจับๆตามช๊อปต่างๆจะกันดีอยู่แล้วว่าความนุ่นและสบายนั้นของจริง ขนาดของ Driver 53mm เรียกว่าใหญ่สุดของ HyperX ให้เสียงได้อย่างเต็มที่แน่นอน
ไมค์เชื่อมต่อ ขนาด 10mm พร้อมไฟ LED แสดงเมื่อทำการ Mute และ สาย USB Dongle สำหรับแปลงสายที่มากับหูฟังจาก แจ๊ค 3.5mm เพื่อให้เป็น USB C และหัวแปลงมาเป็น USB A ธรรมดามาด้วย ทำให้ใช้งานได้กับทุกรุ่นตามที่เขียนไว้หน้ากล่องและสายของตัวหูฟังและตัวอะแดปเตอร์ เป็นสายถักดำแดง ทนทานกว่าสายยางในรุ่นอื่นๆที่อาจจะเปื่อยหรือเสื่อมตามอายุการใช้งาน
ปุ่มสำหรับ Mute Mic และ ปรับความดังของหูฟังอยู่ที่ตัวหูฟังทั้ง 2 ฝั่ง ปรับใช้งานได้สะดวกโดยทีมงานได้ทดลองใช้กับเกม FPS ที่กำลังกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งจากข่าวภาคต่อที่กำลังจะมาเร็วๆนี้ CS:GO นั้นเอง เสียงที่ได้ ชัดและแยกบนล่างซ้ายขวาได้ชัดเจน
ตัดกลับมาใช้งานดูหนังและฟังเพลงให้เสียงได้ครบและตัวหูฟังสามารถแนบสนิททำให้ไมได้ยินเสียงด้านนอกรบกวนได้ดีทีเดียว ตัว MIC ทดลองเปรียบกับ Mic ตั้งโต๊ะกับทีมงาน ได้เสียงที่ชัดเคลียร์เพราะว่าตัว Mic มีระบบ Noise-cancelling และ ตัวกรองติดตัวมาด้วย ทำให้เสียงที่ได้ชัดไม่ว่าจะดัดออกไปไกลจากตัวก็ยังชัดเจน
ภาพรวม
- ด้วยขนาด Driver ขนาดใหญ่ทำให้รับย่านนความถี่ได้มากขึ้นคมชัด เสียงสะใจไม่ว่าจะใช้ดูหนังฟังเพลง และแน่นอนเกมเมอร์อย่างพวกเรา เกมทุกแนวใช้ได้แน่นอน
- ตัวหูฟังมีขนาดเบาและนุ่นไม่รัดหัวจนเกินไป
- โครงเหล็กแข็งแรงทนทาน
- สามารถใช้งานกับหลากหลายเครื่อง เพราะมีสายและหัวแปลงมาให้ครบทุกประเภท
หากเพื่อนๆสนใจอยากจะจับจอง HyperX Cloud III
หูฟังเกมมิ่ง Cloud III จะวางจำหน่ายในวันที่ 6 มิถุนายน ผ่านร้าน HyperX Flagship Store ในแพลตฟอร์มออนไลน์และช่องทางจำหน่ายต่าง ๆ ของ HyperX โดยมีราคาอยู่ที่ 3,090 บาท
· HyperX Cloud III (สีแดง) – HyperX Flagship Store ใน Shopee | Lazada
· HyperX Cloud III (สีดำ) – HyperX Flagship Store ใน Shopee | Lazada
คุณสมบัติ
เฮดโฟน
-ไดรเวอร์: 53 มม. แบบไดนามิกพร้อมแม่เหล็กนีโอดิเมียม
-ฟอร์มแฟคเตอร์: แบบครอบหู, แบบฟูลไซส์ (Circumaural), แบบปิด
-ความถี่: 10Hz-21kHz
-ความต้านทาน: 64 Ω
-ความไว: 100 dBSPL/mW ที่ 1 kHz
-T.H.D: <2%
-ประเภทกรอบ: อะลูมิเนียม
-ที่รองหูฟัง: เมมโมรี่โฟมและหนังเทียมเกรดพรีเมียม
ไมโครโฟน
-ส่วนประกอบ: ไมโครโฟนอีเล็คเตรทคอนเดนเซอร์
-รูปแบบการรับเสียง: ทิศทางเดียว พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน
-ความถี่: 50Hz-17kHz.
-ความไว: -42dBV (0dB=1V/Pa ที่ 1kHz)
การเชื่อมต่อและคุณสมบัติ
-การเชื่อมต่อระบบเสียง: ใช้สายขนาด 3.5 มม. (4 ช่อง CTIA) สาย USB
-รูปแบบระบบเสียงแบบพอร์ต USB: สเตอริโอ
-ข้อมูลจำเพาะ USB: USB 2.0
-Sampling Rates: 44.1kHz, 48kHz, 96kHz
-ความลึกบิต: 16 บิต, 24 บิต
-ระบบเสียงเซอร์ราวด์ Virtual ในตัว: DTS Headphone:X
-ระบบควบคุมเสียง: ระบบควบคุมเสียงออนบอร์ด
ข้อมูลตัวชุดหูฟัง
-น้ำหนัก: 308 ก.
-น้ำหนักรวมไมโครโฟน: 320 ก.
-ความยาวและประเภทสายต่อ: สายชุดหูฟัง 1.2 ม., สายดองเกิล USB 1.3 ม.