(รีวิวเกมมือถือ) Big Farm : Story เกมปลูกผักที่เน้นเรื่องราวในแบบฉบับคันทรี่!

เรามีเกมแนวปลูกผักเกมใหม่มาฝากกัน แต่รับประกันได้ว่าเกมนี้ไม่เหมือนใครแน่นอน อันที่จริง…. ไม่เหมือนเกมปลูกผักบนมือถือที่ไหนเลยดีกว่า เพราะนี่คือเกมปลูกผักที่เน้นเรื่องราวมากกว่าการปลูกผัก เหมาะสำหรับสายเสพเนื้อเรื่องเป็นหลัก เกมนี้นั่นก็คือ Big Farm : Story เกมจากซีรี่ย์ Big Farm ตัวที่สามนั่นเอง

ในเกมนี้เราจะรับบทเป็นลูกสาวของคุณตาที่เติบโตมากับฟาร์มได้ออกไปนอกเมือง หลังจากได้ข่าวว่าที่บ้านเกิดมีพายุถล่ม เลยได้กลับมาที่ฟาร์มของคุณตา แต่กลับพบฟาร์มที่ว่างเปล่าและคุณตาหายตัวไป คนเล่นจึงต้องค้นหาว่าคุณตาหายไปไหน ในขณะเดียวกันก็ต้องฟื้นฟูฟาร์มที่รัก จากความเละเทะที่เกิดจากพายุอีกด้วย

เกมนี้จะเป็นเกมปลูกผักแบบ 3D ที่คนเล่นจะสามารถเดินไปมาสำรวจรอบๆ ได้อย่างอิสระ แต่จะไม่สามารถหมุนฉากได้ (ซูมได้แต่ต้องกดค้างไว้) ความแตกต่างจากเกมอื่นเลยก็คือ เป็นเกมที่จะมีอิสระในการเล่นมาก เพราะคนเล่นไม่ต้องนอน จะทำอะไรตอนไหนก็ได้ จะไปซื้อเมล็ดมาปลูกกี่โมงก็ได้เพราะร้านค้าไม่มีวันปิด ราวกับเป็นเกมปลูกผักแบบกดสูตรโกง Action Reply มาให้แล้วอย่างไรอย่างนั้น

แต่เอาจริงๆ แล้วหัวใจหลักของเกมนี้ไม่ใช่การปลูกผัก เพราะเป็นเกมที่เน้นเนื้อเรื่องเป็นหลัก จะบอกว่าปลูกผักเป็นเรื่องรอง ทำเควสต์นะเป็นเรื่องหลักดีกว่า เพราะว่าไม่ได้มีระบบที่ต้องปลูกผัก ส่งไปขาย สะสมเงินเป็นรอบๆ วันทั้งแบบเกมปลูกผักบนมือถือหรือเกมปลูกผักบนเครื่องเกมอื่นปกติ

แล้วเราจะปลูกผักเพื่ออะไร? ในเกมนี้คนเล่นยังสามารถทำฟาร์มเพื่อเอาผลผลิตไปขายได้ตามปกติ (แต่ต้องไปขายกับ NPC ที่ร้านเอง ไม่มีโยนลงหีบแล้วรอคนมาเก็บ) รวมไปถึงใช้ในเควสต์ที่ต้องการผลผลิตบางชนิดอีกด้วย เกมนี้ไม่มีร้านค้าขายอุปกรณ์ ถ้าคนเล่นอยากได้ของ ก็ต้องทำเควสต์เท่านั้นเพื่อปลดล็อคมาใช้งานกัน

เควสต์ในเกมนี้สำคัญยังไง? คำตอบก็คือจะเป็นด้าน “เนื้อเรื่อง” นั่นเอง โดยจะเป็นเรื่องราวที่คนเล่นจะได้สนุกไปกับการผูกมิตรกับชาวบ้านและช่วยเหลือปัญหาต่างๆ (เอาจริงๆ ก็แอบอารมณ์แนวๆ Animal Crossing นิดๆ เหมือนกัน) ซึ่งคนเล่นจะสนุกไปกับการพูดคุยและช่วยเหลือกับเหล่าชาวบ้านเป็นหลัก และทำได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องนอนอีกด้วย

ทุกอย่างในเกมนี้จึงล้วนปลดล็อคโดยการทำเควสต์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการได้รับของใหม่ๆ หรือสัตว์มาทำฟาร์ม การปลดล็อคพื้นที่ใหม่ให้ได้ออกไปสำรวจ รวมไปถึงการได้คุยกับ NPC คนใหม่ๆ อีกด้วย ดังนั้นเกมนี้จึงเป็นเกมที่เน้นทำเควสต์เป็นหลัก ไม่ได้ออกแนว SANDBOX อิสระเหมือนกับเกมปลูกผักเกมอื่น

ซึ่งสำหรับคนไหนที่ไม่อยากได้เกมทำฟาร์มที่เน้นแต่ทำฟาร์มรัวๆ แต่อยากได้เกมที่มีเรื่องราว ให้สนุกสนานไปกับการพบปะกับ NPC ในเกม รวมไปถึงการเสพบรรยากาศที่เงียบสงบ สบายๆ สไตล์คันทรี่แล้วล่ะก็ เกมนี้จะเป็นอีกเกมที่อยากแนะนำให้ลอง ที่สำคัญคือ เกมนี้ไม่มีโฆษณาขวางให้เสียอารมณ์อีกด้วย