สำหรับเกม Lineage W นั้นจะเป็นเหตุการณ์ 150 ปีหลังจากเกมภาคแรก ระบบการเล่นของเกมนี้จะเปลี่ยนไปจากเดิม จนราวกับได้กลับไปเล่นเกมภาคแรก ด้วยทั้งมุมมองกล้องจากด้านบนลงมาแบบล็อคกล้องและมองเห็นฉากทั้งหมดในแผนที่ขนาดใหญ่ เพียงแต่ตัวเกมได้ทำฉากออกมาเป็น 3D พร้อมกับเอฟเฟคที่อลังการมากกว่าเดิม ความแตกต่างจากเกมภาค 2 หรือภาค M นั่นก็คือตัวเกมจะกลับไปสู่ธีมแบบดิบเถื่อนแบบภาคแรก ทั้งฉากที่ดูหม่นหมอง Dark Fantasy ฉากบูชายัญที่โหดเหี้ยมและมีความรุนแรง และเลือดที่เปรอะเต็มฉาก ขอเตือนตรงนี้ว่าคนไหนที่ไม่ถูกกับเลือดเยอะๆ จะไม่แนะนำให้เล่นเกมนี้
ระบบการเล่นจะเป็นเล่นตามเควสต์ โดยจะมีระบบออโต้ช่วยให้คนเล่นสามารถเล่นได้สะดวกสบายขึ้น แต่เกมนี้จะไม่ได้ออโต้ตลอดเวลา คนเล่นจะต้องคอยกดเป็นระยะๆ บ้าง แต่วิธีการเล่นจะไม่ได้แตกต่างจากเกมแนวนี้เท่าไหร่ คือเน้นโจมตีและใช้สกิลโจมตี ปั้มยาฟื้นพลังเป็นระยะๆ ไฮไลท์เด่นของเกมของภาคหลักก็ได้เอามาให้เล่นหมด งั้นการฝังเวทใส่อาวุธ การอัพสเตตัสที่คนเล่นจะสามารถอัพได้ด้วยตัวเอง รวมไปถึงระบบคราฟต์สร้างอาวุธที่ให้คนเล่นสามารถฟาร์มของและสร้าง แล้วส่งออกขายในตลาดกลางแลกเปลี่ยนก็ได้เช่นกัน
และพูดถึงลินเนจ ก็ต้องพูดถึงโหมดสงครามซึ่งเกมนี้จะรวมคนเล่นหลายประเทศ ดังนั้นฉากสงครามจึงเป็นสงครามขนาดใหญ่ แถมเกมยังมาพร้อมกับระบบแปลภาษาเพื่อช่วยในการสื่อสารกับคนเล่นประเทศอื่น แต่เพราะรู้กันอยู่ว่าภาษาไทยเวลาแปลจะแปลไม่ดีนัก ดังนั้นอาจต้องเน้นภาษาอังกฤษคุยกัน เกมยังสามารถเล่นได้ทั้งมือถือและ PC โดยจะสามารถเชื่อมข้อมูลเล่นต่อกันได้ ทำให้เล่นได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุด อยู่บ้านก็เล่นในคอม ออกไปข้างนอกก็เล่นในมือถือ แถมเกมยังทำธีมออกมาได้อย่างละเอียด แม้จะฉีกแนวไปจากภาค 2 หรือภาค M แต่ก็ทำให้แฟนๆ ที่เคยเล่นภาคแรกมาก่อน จะสัมผัสได้ถึงความเป็น “ภาคต่อ” อย่างแท้จริงได้ในทันที