ระบบการเล่นของเกมนี้จะเป็นโลกแบบกึ่ง Openworld คือยังมีการแบ่งโซน และในการย้ายไปยังโซนต่อไปนั้นจำเป็นต้องวาร์ปไป และมีพื้นที่เป็นโซนๆ แต่ฉากทั้งหมดของเกมนั้นจะกว้างใหญ่โตเอามากๆ เรียกได้ว่าพื้นที่รวมท้องฟ้ามีอาณาเขตใหญ่ แต่พื้นที่เดินนั้นจะมีราวๆ ครึ่งหนึ่ง เส้นทางในการเชื่อมต่อไปยังพื้นที่จุดต่างๆ ในเกมนั้นถ้าไม่วิ่งหรือวาร์ปไป ก็จะเป็นการขี่สัตว์ขี่ที่บินได้ข้ามไปมา ทำให้เกมนี้คนเล่นจะสามารถสัมผัสกับท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ได้อย่างอิสระ ทำให้โลกของเกมนี้กว้างใหญ่และมองเห็นมุมมองต่างๆ ออกมาได้อย่างสวยงาม แถมในเกมนี้ยังมีระบบต่อสู้กลางอากาศอีกด้วย
ระบบการต่อสู้ของเกมนี้นั้นจะเป็นแบบ ARPG ไม่มีกดปุ่มหลบ แต่มีกดปุ่มกัน คนเล่นจะสามารถปล่อยออโต้ในการโจมตีได้ ซึ่งในการรปราบมอนสเตอร์แต่ละเควสต์นั้นจะกินเวลาไม่นานต่อให้มีคนเล่นละแวกนั้นเยอะก็ตาม และคนเล่นต้องกดจบเควสต์ด้วย ไม่งั้นตัวละครจะวนตีแบบนั้นแบบออโต้ไปเรื่อยๆ ไฮไลท์เด็ดของระบบต่อสู้ตอนเจอกับบอสหรือศัตรูที่มีขนาดใหญ่ก็คือ หากคนเล่นได้รวมพลังกันใช้สกิดไปเรื่อยๆ จนเกราะแตก จะสามารถเข้าสู่โหมด Break ที่คนเล่นจะต้องกดรัวๆๆ ตรงปุ่มโจมตีเพื่อทำคอมโบในเวลาอันรวดเร็วได้ (ออโต้จะไม่กดเอง) ทำให้เกมนี้คนเล่นจะมีส่วนร่วมกับตัวเกม ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้อย่างเดียว
เรียกได้ว่านี่คืออีกหนึ่งเกมที่มีความน่าสนใจสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเล่นที่อยากได้เกมแนว MMORPG โลกที่ใหญ่โต มีภาพกราฟฟิกที่สวยและมีโทนเนื้อเรื่องที่จริงจัง สำคัญคือระบบการเล่นที่ไม่ได้ปล่อยให้ทิ้งอย่างเดียวจนหมดอารมณ์ร่วมเพราะว่าคนเล่นยังจะมีส่วนในการเล่นเกมอยู่ด้วยนั่นเอง
