Dance Now 2 นั้น ตัวเกมมีการปรับปรุงจากตัวเกมภาคแรกที่เห็นได้ชัดจากภาพในเกมที่ทำออกมาดีขึ้น อนิเมชั่นไหลลื่นขึ้น แม้ว่ามองโดยรวมภาพในเกมจะไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากนัก แต่ฟีเจอร์หลักต่างๆ ของเกมภาคแรกนั้นก็ได้เอามากันอย่างครบถ้วน โหมดการเล่นเกมนี้จะมีหลักๆ 3 โหมดในเวลานี้ นั่นก็คือแบบบับเบิ้ล ซึ่งจะเป็นการกดจิ้มตามตำแหน่งที่ลอยออกมาตามหน้าจอ ซึ่งเหมาะกับการเล่นบนมือถือที่สุด โหมดที่สองนั้นจะเป็นโหมดแบบ 4 ปุ่มกับ 6 ปุ่ม ที่จะมีปุ่มลอยมาจากข้างบน และต้องกดให้โดน คล้ายๆ กับพวกเกมแนวดนตรีกีต้าร์นิดหน่อย
โหมดการเล่นเกมนี้จะมีหลักๆ 3 โหมดในเวลานี้ นั่นก็คือแบบบับเบิ้ล ซึ่งจะเป็นการกดจิ้มตามตำแหน่งที่ลอยออกมาตามหน้าจอ ซึ่งเหมาะกับการเล่นบนมือถือที่สุด โหมดที่สองนั้นจะเป็นโหมดแบบ 4 ปุ่มกับ 6 ปุ่ม ที่จะมีปุ่มลอยมาจากข้างบน และต้องกดให้โดน คล้ายๆ กับพวกเกมแนวดนตรีกีต้าร์นิดหน่อย ส่วนโหมดคลาสสิคนั้นจะแตกต่างจากเกมอื่นนิดนึงตรงที่ว่าจะมีปุ่มให้กด 3 ปุ่ม คือ บน – ซ้าย และล่าง โดยไม่มีปุ่มขวาให้กด ทั้งนี้เข้าใจได้ว่าออกแบบมาให้กดกันได้ง่ายมากขึ้นเนื่องจากมีการเอาปุ่มกดทั้งสามปุ่มไปวางด้านขวา ส่วนปุ่ม Beat (ที่ต้องกดตอนมันเลื่อนไปจนถึงขอบแสง หรือ Space bar หากเป็นเกมในคอม) ก็จะวางทางซ้ายแทน
ตอนเกมเปิดนั้นมีด่านให้เล่น 9 ด่าน เพลงให้เล่น 7 เพลง โดยจะมีเพลงทั้งเพลงภาษาจีน, เกาหลี และญี่ปุ่นผสมกัน ซึ่งในอนาคตเชื่อได้ว่าอาจจะมีเพลงของสามภาษานี้มาให้เล่นกันอีก นอกจากนี้ยังมีระบบแฟชั่นที่เป็นจุดเด่น มีการวัดแต้มกันว่าใครเติมเงิน เอ้ย ใครแต่งตัวสวยที่สุดมาขิงกันอีกด้วย นอกจากนี้ ในเกมยังมีโหมดคอมมูนิตี้อื่นๆ ที่น่าสนใจมาก ทั้้งการประชันกับของคู่เดตที่จะพิสูจน์กันว่าคู่ใครเก่งกว่าอีกฝ่าย, โหมดการแข่งขันจัดอันดับแรงก์กิ้ง (แต่เกมยังไม่เปิดตอนนี้) แน่นอน รวมไปถึงโหมดแต่งงานที่จะได้เล่นกันอีกด้วย บอกได้เลยว่านี่เป็นเกมดนตรีที่มีของมาให้ครบกันเลยทีเดียว
