ตัวเกม Spellbreak นั้นเป็นเกมที่ทำออกมาให้เล่นบน PC, PS4, Xbox One และ Nintendo Switch และสามารถเล่นครอสแพลตฟอร์มกันได้ จึงทำให้เกมนี้จะเป็นอีกหนึ่งเกมที่จะสามารถหาห้องเล่นได้ไวเอามากๆ และไม่มีข้อจำกัดในการเล่น อีกทั้งบัญชียังเชื่อมต่อกันอีกด้วย รูปแบบการเล่นของเกมนี้จะไม่ได้แตกต่างอะไรกับเกมแนว Battle Royale เกมอื่น ที่คนเล่นจะต้องเอาตัวรอดจากคนอื่นๆ ในเกาะ (ในเกมตอนเริ่มแรกนั้นจะให้เล่นแบบทีม 3 คน รวม 25 ทีม) คนเล่นจะต้องรีบเก็บของ ทำให้ตัวละครแข็งแกร่ง และเอาตัวรอดจากคนเล่นคนอื่นไปพร้อมกัน
ความแตกต่างของเกมนี้กับเกมอื่นเลยก็คือนี่คือเกมที่จอมเวทย์จะสู้กัน ไม่ได้หยิบเอาปืนมาสู้ จึงทำให้เกมไม่เน้นการซุ่มและเน้นการปะทะซึ่งหน้า อาศัยจังหวะปล่อยสกิล และกระโดดหลบหลีกเอา เกมนี้จึงไม่เหมาะกับสายซุ่มเพราะเกมนี้ไม่เน้นซุ่มเลย หมอบไม่ได้ พุ่มหญ้าแอบก็ไม่มี มีอย่างมากก็ไปหลบในซากอาคาร คนเล่นจะต้องเลือกสายเวทมนตร์หลักของตัวเองก่อนที่จะเข้าไปเล่นจากสายเวทมนตร์ทั้ง 6 สาย ซึ่งสายเวทย์ที่เลือกนั้นก็จะเป็นท่าโจมตีหลักของเรา และคนเล่นยังสามารถเข้าไปหาอุปกรณ์เวทมนตร์เพื่อเอามาเป็นอาวุธโจมตีได้อีก 2 จึงทำให้รวมแล้วคนเล่นจะมีเวทย์หลัก 2 และอุปกรณ์โจมตีอีก 2 ซึ่งอุปกรณ์โจมตีอีกสองที่ว่า คนเล่นสามารถสลับเปลี่ยนในเกมได้
ดังนั้นความสนุกของเกมจะอยู่ที่ตรงนี้ เพราะคนเล่นจะสามารถผสมผสานกับเวทย์ตนเองและอุปกรณ์เวทมนตร์ที่เก็บมาได้ อย่าง ขว้างขวดพิษไป แล้วก็ใช้เวทย์ไฟโจมตีต่อ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เวทย์เฉพาะให้คนเล่นได้เลือกหยิบมาใช้อย่าง เทเลพอร์ต, ตรวจจับศัตรูทะลุกำแพง หรือ กระโดดพุ่งตัวไปเร็วๆ อีกด้วย เรียกได้ว่านี่คือเกม Battle Royale รสชาติใหม่ที่มาพร้อมกับความสนุกที่แตกต่างจากเกมอื่น ทั้งเกมเพลย์ ระบบการเล่นที่สามารถผสมผสานการเล่นได้หลากหลาย รวมไปถึงธีมของเกมที่มาในโลกของจอมเวทย์ยุคกลาง คนไหนที่อยากเล่นเกม Battle Royale แต่อาจเบื่อๆ กับเกมที่เอาปืนมายิงกัน ลองมาเล่นเกมนี้กันดู รับรองว่าสนุกแน่นอนครับ